ความสำคัญของดอกเบี้ยธุรกิจ ในการบริหารต้นทุนทางการเงินขององค์กร
- BizflowCapital

- 4 ก.ย.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 21 ต.ค.

ความสำคัญของดอกเบี้ยธุรกิจในการบริหารต้นทุนทางการเงินขององค์กร
ในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน การบริหารต้นทุนทางการเงินถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจและสร้างกำไรอย่างยั่งยืน หนึ่งในองค์ประกอบหลักของต้นทุนทางการเงินที่ผู้บริหารไม่อาจมองข้าม คือ ดอกเบี้ยธุรกิจ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจทางการเงิน การวางแผนกระแสเงินสด รวมถึงความสามารถในการแข่งขันขององค์กรในระยะยาว
ดอกเบี้ยธุรกิจ คืออะไร และแตกต่างจากดอกเบี้ยบุคคลธรรมดาอย่างไร?
คำนิยาม: ดอกเบี้ยธุรกิจ คือ ค่าตอบแทนที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายให้กับสถาบันการเงิน (ธนาคาร/ผู้ให้กู้) เพื่อแลกกับการใช้เงินทุนในการดำเนินธุรกิจ ขยายกิจการ หรือลงทุนในทรัพย์สิน โดยทั่วไปมักมีอัตราสูงกว่าสินเชื่อบุคคล เนื่องจากมีปัจจัยความเสี่ยงที่ซับซ้อนกว่า ทั้งความผันผวนของตลาดและสถานะทางการเงินของบริษัท
🔑 แก่นความรู้: อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงหลักที่ต้องรู้ (Benchmark Rates)
ในการขอสินเชื่อธุรกิจ คุณจะพบคำศัพท์เหล่านี้บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารใช้เป็นฐานในการกำหนดดอกเบี้ยให้ธุรกิจของคุณ:
MLR (Minimum Loan Rate): อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเรียกเก็บจาก ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ที่มีประวัติทางการเงินยอดเยี่ยมและใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
MOR (Minimum Overdraft Rate): อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากการเบิกเงินเกินบัญชี (OD) จาก ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี
MRR (Minimum Retail Rate): อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจาก ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (มักใช้กับสินเชื่อรายย่อยมากกว่าธุรกิจ)
3 กลยุทธ์เจรจาต่อรอง "ดอกเบี้ยธุรกิจ" ให้ต่ำที่สุด
เพื่อให้คุณได้อัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุดสำหรับการเติบโต ลองใช้กลยุทธ์การเจรจาเหล่านี้
3.1 เตรียม "แฟ้มความมั่นคง" ของธุรกิจให้พร้อม
ก่อนยื่นขอสินเชื่อ คุณต้องพิสูจน์ให้ธนาคารเห็นว่าธุรกิจคุณ "มีความเสี่ยงต่ำ" โดยการนำเสนอเอกสารสำคัญดังนี้:
งบการเงินที่ตรวจสอบแล้ว (Audited Financial Statements): ย้อนหลังอย่างน้อย 3 ปี ที่แสดงผลกำไรและกระแสเงินสดที่ดี
แผนธุรกิจที่ชัดเจน (Clear Business Plan): แสดงวัตถุประสงค์ในการใช้เงินและศักยภาพในการสร้างรายได้เพื่อชำระหนี้
3.2 สร้างความสัมพันธ์กับธนาคารหลัก (Primary Banker)
การเป็นลูกค้าชั้นดีที่มีความสัมพันธ์ยาวนานกับธนาคารเดียว เช่น มีบัญชีเงินฝาก, บัญชีเงินเดือนพนักงาน, หรือใช้บริการอื่นๆ อาจทำให้คุณได้สิทธิพิเศษในการพิจารณาดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าลูกค้าทั่วไป (Preferential Rate)
3.3 เปรียบเทียบข้อเสนออย่างน้อย 3 แห่ง และใช้ข้อมูลเจรจา
อย่ารับข้อเสนอแรกที่คุณได้รับ ให้ยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินหลายแห่ง (อย่างน้อย 3 แห่ง) เมื่อได้ข้อเสนอที่ดีที่สุดจากแห่งหนึ่ง ให้นำไปใช้เป็น "เครื่องมือต่อรอง" กับธนาคารที่คุณต้องการทำธุรกิจด้วย โดยระบุว่า "หากคุณสามารถปรับอัตราดอกเบี้ยให้ใกล้เคียงกับ (อัตราจากคู่แข่ง) ได้ เราพร้อมที่จะเดินหน้าต่อทันที"
วิธีคิดดอกเบี้ยธุรกิจ: Flat Rate vs ลดต้นลดดอก
เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะส่งผลต่อจำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายจริง
ดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate):
วิธีคิด: คิดดอกเบี้ยจาก "เงินต้นเต็มจำนวน" ตลอดอายุสัญญา แม้ว่าคุณจะผ่อนไปแล้วก็ตาม
ตัวอย่าง: กู้ 100,000 บาท ดอกเบี้ย 10% ต่อปี ผ่อน 2 ปี คุณต้องจ่ายดอกเบี้ย (100,000 x 10%) x 2 ปี = 20,000 บาท
จุดสังเกต: มักใช้กับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ หรือสินเชื่อส่วนบุคคลบางประเภท ตัวเลขดูน้อย แต่เมื่อคำนวณเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริง (Effective Rate) จะสูงมาก
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate / Reducing Balance):
วิธีคิด: คิดดอกเบี้ยจาก "เงินต้นที่คงเหลืออยู่" ในแต่ละงวด
ตัวอย่าง: กู้ 100,000 บาท เมื่องวดแรกคุณผ่อนไป เงินต้นลดลง ดอกเบี้ยในงวดถัดไปก็จะถูกคิดจากเงินต้นใหม่ที่น้อยลง
จุดสังเกต: เป็นวิธีที่ยุติธรรมกับผู้กู้ และเป็นมาตรฐานของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อบ้าน SME ควรมองหาสินเชื่อที่คิดดอกเบี้ยแบบนี้
ดอกเบี้ยธุรกิจกับต้นทุนทางการเงิน
ดอกเบี้ยธุรกิจ หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการกู้ยืมเงินขององค์กรจากแหล่งเงินทุนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร สถาบันการเงิน หรือแหล่งเงินกู้นอกระบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อนำมาใช้ดำเนินธุรกิจในด้านต่าง ๆ เช่น การลงทุน การซื้อสินทรัพย์ หรือการเสริมสภาพคล่องในช่วงที่มีความจำเป็น
การบริหาร ดอกเบี้ยธุรกิจ อย่างเหมาะสม จะช่วยลดภาระต้นทุนทางการเงิน ทำให้กระแสเงินสดขององค์กรมีเสถียรภาพ และช่วยให้การวางแผนงบประมาณสามารถทำได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
ตารางเปรียบเทียบ: การบริหารดอกเบี้ยธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ vs. ไม่มีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์ในการจัดการดอกเบี้ยธุรกิจ
เพื่อให้การจัดการต้นทุนทางการเงินมีประสิทธิภาพสูงสุด องค์กรควรมีการวางแผนบริหาร ดอกเบี้ยธุรกิจ อย่างเป็นระบบ โดยสามารถดำเนินการได้ในหลากหลายแนวทาง เช่น:
เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย จากหลายสถาบันก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อ
วางแผนระยะยาว ในการกู้ยืม เช่น เลือกใช้สินเชื่อระยะยาวที่มีดอกเบี้ยคงที่
บริหารหนี้สินอย่างสมดุล ระหว่างหนี้ระยะสั้นและระยะยาว
ใช้เครื่องมือทางการเงิน เพื่อบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย เช่น สัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Swap)
ดอกเบี้ยธุรกิจ เป็นต้นทุนที่มีผลกระทบโดยตรงต่อกำไร ความสามารถในการดำเนินงาน และความมั่นคงทางการเงินขององค์กร การบริหารดอกเบี้ยธุรกิจอย่างรอบคอบและเป็นระบบจึงเป็นสิ่งที่ผู้บริหารไม่ควรมองข้าม เพราะไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุน แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง
การวางกลยุทธ์ทางการเงินที่มีพื้นฐานจากความเข้าใจใน ดอกเบี้ยธุรกิจ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง มีประสิทธิภาพ และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคตอย่างมีความยืดหยุ่น
💬 สนใจยื่นสมัครวันนี้ที่ www.bizflowcapital.com หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อธุรกิจของเราได้ฟรี





ความคิดเห็น