ขอ "สินเชื่อออนไลน์" ใช้อะไรบ้าง (วิธีขอสินเชื่อออนไลน์สำหรับธุรกิจ)
- BizflowCapital
- 21 ธ.ค. 2567
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 6 ม.ค.

การขอ สินเชื่อออนไลน์ เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเงินทุนเพื่อใช้หมุนเวียนสภาพทางการเงินของธุรกิจในช่วงเวลาที่จำเป็น การยื่นขอนั้นง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังธนาคารหรือสถาบันการเงิน นั้นเจึงเป็นจุดเด่นสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการความรวดเร็วในการตัดสินใจ
1. ขอสินเชื่อออนไลน์หมายถึง ?
การขอเงินกู้ผ่านระบบออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน ของธนาคารและสถาบันการเงินที่ให้บริการสินเชื่อธุรกิจ โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงาน ทำให้การขอสินเชื่อประเภทนี้ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
การขอ สินเชื่อออนไลน์ สามารถทำได้ทั้งสินเชื่อระยะสั้นและสินเชื่อระยะยาว ขึ้นอยู่กับประเภทของสินเชื่อที่ธุรกิจต้องการ ซึ่งในแต่ละประเภทจะมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ
2. เอกสารที่ต้องใช้
เจ้าของธุรกิจจะต้องเตรียมเอกสารตามข้อกำหนดของธนาคาร หรือสถาบันการเงิน เช่น หนังสือรับรอง ใบทะเบียนการค้า หรือใบอนุญาติการประกอบกิจการ เป็นต้น
3. ขั้นตอนการขอสินเชื่อออนไลน์
เริ่มจากการกรอกแบบฟอร์มที่จะต้องระบุข้อมูลที่จำเป็น เช่น จำนวนเงิน ข้อมูลติดต่อกลับ พร้อมทั้งแนบเอกสารตามหัวข้อที่ 2 จากนั้นรอการตรวจสอบของธนาคารหรือสถาบันการเงิน ซึ่งใช้เวลาไม่นาน
4. ข้อดีของการขอสินเชื่อออนไลน์
การขอสินเชื่อประเภทนี้มีข้อดีหลายประการที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจได้รับประโยชน์ และความสะดวกรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น
สะดวกในการติดต่อยื่นเอกสาร เจ้าของธุรกิจไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา หรือรอคิวนาน สามารถยื่นขอ สินเชื่อออนไลน์ ได้ทุกที่ทุกเวลา
ประหยัดเวลาในการเดินทาง การอนุมัติสินเชื่อสามารถทำได้เร็วมาก โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา ต่างจากการขอสินเชื่อแบบเดิมที่จะต้องไปดำเนินการดด้วยตัวเองที่สาขาเท่านั้น
ลดความยุ่งยากเกี่ยวกับเอกสาร
เจ้าของธุรกิจไม่ต้องเตรียมเอกสารเยอะ และไม่ต้องปริ้นเอกสารอีกต่อไป เพราะสามารถยื่นขอโดยการกรอกแบบฟอร์ม รวมทั้งแนบไฟล์ได้ทันทีผ่านทางเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน
การขอสินเชื่อออนไลน์ยังช่วยให้เจ้าของธุรกิจที่อาจไม่มีประวัติการเงินที่ดีสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เพราะบางสถาบันการเงินอาจพิจารณาจากข้อมูลทางธุรกิจแทนการพิจารณาประวัติการเงินส่วนบุคคล
5. การเลือกใช้บริการสถาบันการเงิน
การขอ สินเชื่อออนไลน์ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับข้อกำหนดและเงื่อนไข พร้อมทั้งเปรียบเทียบจากสถาบันการเงินหลายๆแห่ง โดยควรพิจารณาดังนี้
ดอกเบี้ย ควรเลือกประเภทสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมสามารถผ่อนชำระได้ และไม่สูงมาก
ระยะเวลาผ่อนชำระ คำนวนเวลาชำระเงินคืนให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อธุรกิจ
การเลือกบริการสินเชื่อที่เชื่อถือได้ จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าการขอสินเชื่อจะไม่ทำให้เกิดปัญหาตามมาหลังการขอสินเชื่อ
6. ข้อควรระวังในการขอสินเชื่อ
การขอ สินเชื่อออนไลน์ ย่อมมีความเสี่ยง โดยเฉพาะธุรกิจที่ประวัติการเงินไม่แข็งแกร่ง คุณต้องระวังข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ที่อาจมีผลต่อธุรกิจ เช่น
อัตราดอกเบี้ย สถาบันการเงินที่มีดอกเบี้ยที่สูง ทำให้ธุรกิจต้องจ่ายชำระเงินคืนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
ค่าธรรมเนียม สินเชื่อบางประเภทอาจถูกคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มในการขอสินเชื่อออนไลน์ จึงควรตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ
การชำระคืนที่ยืดหยุ่น ควรเลือกสินเชื่อที่มีเงื่อนไขการชำระคืนที่ไม่สร้างความลำบากให้ธุรกิจของคุณในอนาคต
7. ข้อควรคำนึงในการยื่นขอสินเชื่อ
ก่อนที่คุณจะขอสินเชื่อสำหรับธุรกิจ ควรมีแผนการใช้เงินที่จะทำให้สามารถนำเงินมาผ่อนชำระคืนได้ เรื่องการใช้เงินที่ได้จากการขอ สินเชื่อออนไลน์ เพื่อให้มั่นใจว่าเงินจะถูกนำไปช่วยการขาดสภาพคล่องทางการเงินของธุรกิจ หรือเพิ่มผลิตภัณฑ์ หรือบริการ
การขอ สินเชื่อออนไลน์ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่าสะดวกและรวดเร็ว ดังนั้นการเลือกแหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจควรเลือกให้เหมาะสมกับประเภทธุรกิจ และยังต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนด เงื่อนไขให้ดีก่อนทำเรื่องขอสินเชื่อ
ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อออนไลน์สำหรับธุรกิจ
1. ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร
ผู้ประกอบการที่ต้องการสมัครสินเชื่อออนไลน์ต้องมีคุณสมบัติตามที่สถาบันการเงินกำหนด โดยปกติจะต้อง
- อายุ 20 ปีขึ้นไป
- เป็นเจ้าของกิจการที่ดำเนินการมาไม่น้อยกว่า 1 ปี
- มีรายได้จากธุรกิจที่มั่นคง สามารถแสดงเอกสารยืนยันได้
- มีประวัติการเงินที่ดี ไม่มีประวัติเสียหายในการชำระหนี้
- ต้องมีบัญชีธนาคารที่เปิดใช้งานกับสถาบันการเงินที่สมัคร
2. เตรียมเอกสารที่จำเป็น
การสมัครสินเชื่อออนไลน์สำหรับธุรกิจต้องเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อยืนยันข้อมูลทางการเงินและการดำเนินธุรกิจ ได้แก่
- สำเนาบัตรประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง ของเจ้าของกิจการ
- ทะเบียนการค้าหรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนธุรกิจ ของกิจการ
- งบการเงิน หรือ บัญชีรายรับ-รายจ่าย ของธุรกิจ (เช่น งบกำไรขาดทุน)
- เอกสารแสดงรายได้ เช่น บัญชีธนาคาร หรือข้อมูลที่แสดงถึงกระแสเงินสดของกิจการ
- ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี หรือเอกสารอื่น ๆ ที่สถาบันการเงินอาจขอเพิ่มเติม
- เอกสารการเช่าหรือซื้อที่ดิน/อาคาร (หากมี)
3. เลือกสินเชื่อและธนาคารที่ต้องการสมัคร
ก่อนดำเนินการสมัคร ควรศึกษาและเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ โดยพิจารณาจาก
- วงเงินสินเชื่อที่ต้องการ
- อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
- ระยะเวลาการผ่อนชำระ
4. เข้าสู่ระบบการสมัครสินเชื่อออนไลน์
ไปที่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ต้องการสมัครสินเชื่อ จากนั้นเลือกเมนูการสมัครสินเชื่อออนไลน์สำหรับธุรกิจ และทำการสมัครตามขั้นตอนที่ระบบกำหนด
- ลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้ (ถ้ายังไม่มี) หรือเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีที่มีอยู่
- กรอกข้อมูลธุรกิจและข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของกิจการ เช่น ชื่อ, ที่อยู่, รายได้, และข้อมูลการเงิน
- แนบเอกสารที่ต้องการใช้ในการยื่นขอสินเชื่อ
5. การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
หลังจากยื่นคำขอสินเชื่อออนไลน์แล้ว ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะทำการพิจารณาคำขอ โดยจะตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ เช่น ความมั่นคงทางการเงินของธุรกิจ และประวัติการเงินของเจ้าของกิจการ โดยทั่วไปการพิจารณาอาจใช้เวลา 3-7 วันทำการ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน
6. การแจ้งผลการอนุมัติ
หลังจากการพิจารณา สถาบันการเงินจะส่งผลการอนุมัติหรือปฏิเสธสินเชื่อผ่านช่องทางที่ใช้ในการสมัคร เช่น อีเมล, ข้อความทางโทรศัพท์ หรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน หากสินเชื่อได้รับการอนุมัติ เจ้าของธุรกิจจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับวงเงินสินเชื่อ, อัตราดอกเบี้ย, และเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
Comentários